พระธาตุนารายณ์เจงเวง
- พระธาตุนารายณ์เจงเวง ประดิษฐานอยู่ ณ
วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร อยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ ๖
กิโลเมตร
-พระธาตุองค์นี้เป็นพระธาตุเก่าแก่
สมัยเดียวกันกับพระธาตุเชิงชุม แต่ศิลปการก่อสร้างผิดไปคนละแบบ
พระธาตุองค์นี้สร้างด้วยศิลาแลง แบบเดียวกับปราสาทหินพิมาย แต่มีขนาดเล็กกว่า
เป็นปรางค์แบบขอม องค์พระธาตุแบ่งเป็นหลายส่วน คือ ส่วนที่เป็นฐาน
ส่วนที่เป็นองค์หลังคาและส่วนยอด ส่วนที่เป็นฐานก่อด้วยศิลาแลงก้อนขนาดใหญ่
มีเอวคอดกิ่วเหมือนพานดอกไม้ สูง ๑๘ เมตร กว้างด้านละ ๑๕ เมตร
- องค์เจดีย์เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม
ส่วนที่เป็นหลังคาและยอด ปัจจุบันหักพังหมดแล้ว ยังคงเหลือแต่องค์พระธาตุ
ซึ่งมีประตูและซุ้มประตูด้านละประตู ด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออก
ยังพอเห็นความวิจิตรงดงามอยู่พอสมควร ด้านทิศตะวันออกต่อจากประตูออกมาก่อเป็นคูหา
ยื่นมาข้างนอก ๓ เมตร มีบันได ๗ ขั้น ก่อนถึงองค์พระธาตุ วงกบประตูสลักอย่างดี
มีร่องรอยบัวแบบประตูโบราณ ทำด้วยศิลาแท่งใหญ่ บนซุ้มประตูสลักลวดลายงดงาม
ด้านทิศเหนือเป็นประตูเช่นเดียวกับด้านอื่น ๆ แต่ซากที่เหลืออยู่เด่นกว่า
ประตูด้านอื่น ภายใต้ซุ้มข้างบน สลักรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์
ประดับด้วยกนกก้านขดอ่อนช้อยงดงาม ส่วนตรงมุมทั้งสี่ด้านขององค์พระธาตุ
เป็นรูปนาคห้าเศียร ทำได้ดีราวกับมีชีวิตจริง
- ตามตำนานกล่าวว่า
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระเจ้าสุวรรณภิงคาระได้ทราบข่าวว่า
พระมหากัสสปะเถระ พร้อมด้วยพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์
จะนำพระอุรังคธาตุไปบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า ที่ประดิษฐานพระธาตุพนม
และจะต้องเสด็จย่านสกลนคร ก็มีความศรัทธา ได้ประชุมอำมาตย์ผู้ใหญ่
สร้างพระเจดีย์ไว้สององค์ ไว้คอยรับเสด็จ
เพื่อขอส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ เจดีย์องค์หนึ่งสร้างไว้ที่พระราชอุทยานหลวง
อยู่บนเนินสูงด้านทิศตะวันตก ห่างจากพระราชวังสามพันวา
โดยให้พระนางเจงเวงเป็นเจ้าศรัทธาสร้าง
อีกองค์หนึ่งให้อำมาตย์ผู้ใหญ่ฝ่ายชายเป็นผู้สร้าง
-
ทำนองสร้างแข่งขันกันให้สร้างเสร็จในคืนเดียว
โดยถือเกณฑ์เมื่อดาวประกายพรึกโผล่พ้นขอบฟ้าเป็นเวลาสิ้นสุดการก่อสร้าง
เมื่อตกกลางคืนฝ่ายหญิงก็เอาโคมไปแขวนไว้บนไม้สูง
ให้ฝ่ายชายเข้าใจว่าดาวประกายพรึกขึ้นแล้ว ก็เสียกำลังใจยังสร้างไม่เสร็จ
ต้องยอมแพ้ไป
ส่วนฝ่ายหญิงทำเสร็จเพราะทำได้เต็มเวลาและยังมีฝ่ายชายซี่งระส่ำระสายมาช่วยสร้างด้วยเป็นจำนวนมาก
เมื่อพระมหากัสสปะ พร้อมทั้งพระอรหันต์
ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุผ่านมาถึงสกลนคร พระเจ้าสุวรรณภิงคาระได้ขอ
แบ่งส่วนพระบรมสารีริกธาตุ แต่พระมหากัสสปะได้ชี้แจงว่า
พระพุทธเจ้ามีพระพุทธประสงค์ให้นำไปประดิษฐานที่ภูกำพร้า แต่เพื่อมิให้เสียศรัทธา
พระมหากัสสปะจึงให้พระอรหันต์องค์หนึ่งกลับไปนำ
พระอังคารที่เหลือจากการถวายพระเพลิงที่เมืองกุสินารายณ์
มาประดิษฐานที่พระธาตุเจดีย์นารายณ์เจงเวงแทน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น